ในการคำนวณหาผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นต่อปีที่คาดไว้วิธีง่าย ๆ อย่างหนึ่งก็คือการใช้สูตรที่ว่าผลตอบแทนการลงทุน “ระยะยาว” นั้น จะเท่ากับอัตราปันผลตอบแทนในปีแรกบวกอัตราการเติบโตของกำไรหรือปันผลของ บริษัท ตัวอย่างเช่น ถ้าในปีแรกที่ลงทุนนั้นคาดว่าจะได้ปันผลเป็นเงิน 3 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ราคาหุ้นเท่ากับ 100 บาท แบบนี้ก็คืออัตราปันผลในปีแรกเท่ากับ 3% และถ้าคาดว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ “โตเร็วมาก” โดยเฉลี่ยแล้วกำไรหรือปันผลสามารถโตได้ถึง 12% ต่อปีไปเรื่อยๆ เป็นเวลาอาจจะ 20-30 ปีขึ้นไป ต่างจากพนันออนไลน์ที่ได้กำไรภายในไม่กี่นาที ถ้าเป็นแบบนี้ผลตอบแทนระยะยาวของหุ้นตัวนี้ก็คือ ปีละ 15% ทบต้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นมากเป็นหุ้นที่หาได้ยาก ในตลาดหลักทรัพย์อย่างตลาดหุ้นไทยที่มีหุ้นหลายร้อยตัวนั้น ก็จะมีไม่กี่ตัวที่ทำได้ และถ้าใครถือหุ้นตัวนั้นไว้ยาวนานในปริมาณที่มาก ก็อาจจะรวยไปเลย ถ้าเป็นในต่างประเทศก็อาจจะเป็นระดับหุ้นโค๊กหรือวอลมาร์ท ในตลาดหุ้นไทยนั้นอาจจะเป็นหุ้นแบบปูนใหญ่ก็ได้
ถ้าคิดว่าตลาดหลักทรัพย์นั้นก็เหมือนกับหุ้นตัวหนึ่ง โดยที่ดัชนีตลาดหุ้นก็คือราคาหุ้น ก็จะพบว่า “หุ้นตลาด” นั้น เมื่อเข้ามาซื้อขายในวันแรกประมาณเดือนเมษายน 2518 มีราคาเท่ากับ 100 บาทต่อหุ้น พอถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2556 คิดเป็นเวลาประมาณ 38 ปี 4 เดือน ราคาหรือดัชนีขึ้นมาเป็น 1338 บาทต่อหุ้น เท่ากับว่าผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาเท่ากับประมาณ 7% ต่อปีแบบทบต้น นอกจากนั้นผู้ถือหุ้นตลาดยังได้ปันผลแต่ละปีประมาณ 3% ดังนั้นเท่ากับว่าคนที่ลงทุนถือ “หุ้นตลาด” ในระยะยาวได้ผลตอบแทนประมาณปีละ 10% โดยเฉลี่ยแบบทบต้น ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมและน่าจะเหนือกว่าการลงทุนหลัก อย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ซื้อหุ้นกู้หรือพันธบัตรรัฐบาล หรือแม้แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องพูดถึงทองหรือการลงทุน “ทางเลือก” อื่นๆ ว่าที่จริงตลาดหุ้นไทยนั้นต้องถือว่าเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวที่ดี ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในสหรัฐทีเดียวและดีกว่าตลาดหุ้นจำนวนมากในโลก แต่ไม่รู้ว่าตอนที่เริ่มมีการซื้อขาย “หุ้นตลาด” ในปีแรกนั้น อัตราการจ่ายปันผลเป็นเท่าไร แต่ถ้าให้คาดเดาคิดว่าก็อาจจะประมาณปีละ 3% และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็สามารถที่จะพูดต่อได้ว่าอัตราการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนต่อปีโดย เฉลี่ยในช่วง 38 ปีที่ผ่านมาก็คือ 7% ต่อปี